จ่ายหนี้ต่อเดือน แค่ไหนเรียกไหว

โดย สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

จ่ายหนี้ต่อเดือน แค่ไหนเรียกไหว

โดย สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
How Much Monthly Debt Payment

 

จ่ายหนี้ต่อเดือน แค่ไหนเรียกไหว

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

 

cfp

 

หากเอ่ยถึงคำว่า “หนี้” ก็ถือเป็นดาบสองคมของหลาย ๆ คน โดยด้านหนึ่งเปรียบเสมือนทางลัดที่ช่วยให้เข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการได้เร็วขึ้นที่ไม่ต้องรอเก็บเงินให้ครบทั้งก้อน เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ แทนที่จะรอเก็บเงินก้อนใหญ่เป็นเวลาหลายปี ก็กู้สินเชื่อบ้านหรือรถ ก็จะช่วยให้มีบ้านหรือได้รถเร็วขึ้น หรือหากต้องการเรียนต่อก็ใช้วิธีกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาก็จะช่วยให้สามารถเรียนต่อได้เร็วขึ้น

 

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เมื่อเป็นหนี้แต่บริหารจัดการผิดพลาด อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ ๆ ได้ เช่น จ่ายหนี้ช้าก็มีภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ยิ่งมีหนี้มาก ดอกเบี้ยก็ยิ่งสูงก็กัดกินเงินออม แถมเสียค่าปรับก็ส่งผลเสียต่อเครดิต หรือเกิดความเครียดก็ส่งผลต่อสุขภาพจิต เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม หากเป็นช่วงเศรษฐกิจดี ๆ การงานมั่นคง เงินทองเข้ามาไม่ขาดมือ ได้โบนัสทุกปี ภาระหนี้สินที่ก่อเอาไว้ก็ไม่น่าจะกระทบกับเงินในกระเป๋า แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจเพราะหากมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนมากจนเกินไป ย่อมส่งผลต่อสุขภาพการเงินในระยะยาว ดังนั้น ต้องถามตัวเองว่ามีความจำเป็นแค่ไหนในการก่อหนี้

 

การสำรวจว่าตัวเองมีภาระหนี้แต่ละเดือนมากน้อยแค่ไหน สามารถคำนวณได้จาก DSR ย่อมาจาก Debt Service Ratio หมายถึง อัตราส่วนเงินสำหรับใช้ผ่อนชำระหนี้กับรายได้ในแต่ละเดือน ซึ่งตามหลักสุขภาพการเงินที่ดี DSR ไม่ควรเกิน 40%

 

Screenshot-2024-09-24-113636

 

โดยหนี้สินที่นำมาเพื่อตรวจสุขภาพทางการเงินจะเป็นหนี้สินปัจจุบันต่อเดือน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนรายได้ที่นำมาคำนวณจะเป็นรายได้ต่อเดือนทั้งหมด เช่น เงินเดือน รายได้พิเศษ เป็นต้น

 

ตัวอย่าง

มีเงินเดือน 50,000 บาท มีหนี้สินต้องผ่อนต่อเดือน ได้แก่ หนี้บ้าน (9,000 บาท), หนี้รถ (7,000 บาท), หนี้บัตรเครดิต (3,000 บาท), ผ่อนมือถือ (800 บาท) รวมทั้งหมด 19,800 บาท

 

จากสูตร DSR = 18,800 ÷ 50,000 x 100 = 39.60% แสดงว่า ถือว่าฐานะทางการเงินยังแข็งแรง มีความสามารถในการจ่ายหนี้แต่ละเดือนได้ตามปกติ แต่หากลดหนี้ลงไปได้ก็ควรลด

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวหรือเกิดวิกฤติ เงินทองหายาก ไม่รู้ว่าจะถูกเลิกจ้างวันไหน รายได้พิเศษก็ไม่เข้ามาเลยแม้แต่บาทเดียว หากต้องการทำให้สุขภาพการเงินมีความแข็งแรง นอกจากการลดค่าใช้จ่ายแล้ว การหยุดก่อหนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี

 

อาจโต้แย้งว่าที่ผ่านมาเคยผ่อนหนี้เดือนละ 19,800 บาท จะให้มาลดทันที เจ้าหนี้คงไม่ยอม ที่สำคัญเมื่อไม่ผ่อนตามเงื่อนไขก็จะผิดเงื่อนไขและมีปัญหาตามมา เช่น ภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย หรือรถโดนยึด ดังนั้น หากให้การผ่อนหนี้ลดลง

ควรเริ่มต้นด้วยการหยุดกู้ยืมก้อนใหม่ ถัดมา คือ ใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น หากทำได้จำนวนหนี้ที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนจะลดลง

 

จากตัวอย่างด้านบน เช่น หากหยุดการใช้บัตรเครดิต (3,000 บาท) ก็จะเหลือผ่อนหนี้แต่ละเดือน 16,800 บาท ทำให้ DSR เหลือ 33.60% หมายความว่า จะมีเหลือเงินในกระเป๋าเอาไว้ใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น

 

ตารางประกอบบทความ

Screenshot-2024-09-24-113659

 

อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นในการก่อหนี้ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวหรือเกิดวิกฤติ จำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อลดความเสี่ยงและภาระหนี้ในอนาคต ต่อไปนี้ คือ แนวทางการวางแผนก่อหนี้ให้เหมาะสม

ประเมินสถานการณ์ทางการเงินของตัวเอง

  • ตรวจสอบรายรับ รายจ่าย เงินออม และภาระหนี้ที่มีอยู่
  • คำนวณความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ ว่าสามารถผ่อนไหวหรือไม่
  • พิจารณาถึงความมั่นคงของหน้าที่การงานและรายได้

 

พิจารณาความจำเป็นในการกู้ยืม

  • กู้ยืมเงินเฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ
  • หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
  • พิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การหารายได้เสริม

 

เปรียบเทียบข้อเสนอจากสถาบันการเงินต่าง ๆ

  • เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม เงื่อนไข และระยะเวลาการผ่อนชำระ
  • เลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการผ่อนชำระ

 

กู้ยืมเงินในจำนวนที่จำเป็น

  • กู้ยืมเงินในจำนวนที่น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น
  • หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินเกินตัว

 

เตรียมแผนสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน

  • เตรียมเงินสำรองเผื่อไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
  • วางแผนรับมือกับสถานการณ์เลวร้าย เช่น ตกงาน

 

ศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเงื่อนไขการกู้ยืม

  • อ่านสัญญาเงินกู้ให้ละเอียดก่อนเซ็นชื่อ
  • สอบถามข้อมูลให้ครบถ้วน

 

ชำระหนี้คืนตรงเวลา

  • วางแผนการผ่อนชำระหนี้ให้ชัดเจน
  • ชำระหนี้คืนตรงเวลาทุกงวด
  • หลีกเลี่ยงการจ่ายหนี้ล่าช้า

 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

  • ปรึกษานักวางแผนการเงิน หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ
  • ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินและการจัดการหนี้จากนักวางแผนการเงิน

 

การก่อหนี้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวหรือเกิดวิกฤติอาจมีความเสี่ยงสูง จึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เริ่มต้นด้วยการศึกษาข้อมูล ถามตัวเองว่าควรก่อหนี้แค่ไหนที่ไม่สร้างปัญหาด้านการเงินในระยะยาว และเมื่อตัดสินใจก่อหนี้ก็ต้องจ่ายหนี้คืนให้ตรงเวลาตามเงื่อนไขที่กำหนด และเตรียมแผนสำรองการเงินเพื่อช่วยให้การกู้ยืมเงินเป็นไปอย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงในอนาคต

 

ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th

 

 

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง: หนี้ วางแผนการเงิน

  บทความที่เกี่ยวข้อง